เดือน: เมษายน 2020

แม่ค้าขายเบเกอรี่ ป่วยติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มอีกราย

แม่ค้าขายเบเกอรี่ ป่วยติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มอีกราย

ที่อำเภอสัตหีบจังหวัดชลบุรี  มีแม่ค้าขายขนมเบเกอรี่รายหนึ่งได้มีการโพสต์ข้อมูลผ่านทาง facebook เมื่อวันที่ 5 เดือนเมษายนปี พ.ศ. 2563 โดยใช้ความใน Facebook มีการระบุเกี่ยวกับข้อมูลของตัวเองว่า แม่ค้าขายเบเกอรี่ ป่วยติดเชื้อโควิด-19 โดยเธอมีการระบุไว้ใน Facebook ของเธอว่าตัวเองนั้นพึ่งตรวจพบว่ามีการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 มาร่วมงานวันที่ 4 เดือนเมษายนปี พ.ศ. 2563 โดยที่ก่อนหน้านั้นก็มีข่าวพบผู้ติดเชื่อที่จังหวัดสุพรรณบุรี

ซึ่งตัวเธอนั้นติดมาจากสามีของเธอเองโดยเธอไม่ทราบมาก่อนว่าตนเองนั้นมีอาการติดเชื้อเนื่องจากว่าร่างกายไม่แสดงอาการอะไรเลยดังนั้นเธอจึงอยากแจ้งประชาสัมพันธ์ให้กับใครก็ตามที่มาใกล้ชิดกับเธอหรือว่าสัมผัสตัวเธอในช่วง 14 วันย้อนหลังไปนั้นให้มีการเฝ้าระวังตนเองพร้อมกับตัวเองเป็นระยะเวลา 14 วันคอยสังเกตอาการว่าจะมีอาการที่เข้าข่ายการติดเชื้อไวรัสโควิด-19หรือไม่อีกทั้งหากภายในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมาไกลที่ใกล้ชิดและสัมผัสกับตัวเธอโดยที่ไม่ได้สวมใส่หน้ากากอนามัยขอความร่วมมือเธอให้ติดต่อพร้อมกับทิ้งเบอร์โทรเอาไว้เพื่อที่เธอจะได้นำข้อมูลเหล่านี้ไปให้กระทรวงสาธารณสุข

เพื่อทำการติดต่อบุคคลเหล่านั้นต่อไป  ทั้งเธอยังได้กล่าวขอโทษคนที่มาซื้อเบเกอรี่ของเธอรับประทานเนื่องจากเธอไม่รู้จริงๆว่าเธอมีการติดเชื้อไวรัสโควิด-19จึงยังทำขนมขายอยู่เพราะถ้าหากเธอรู้เธอคงไม่ทำขนมขายและเป็นการแพร่เชื้อไวรัสโควิด-19ให้กับคนอื่นอย่างแน่นอนทั้งขอความร่วมมืออย่ามีการซ้ำเติมเธอเลยเพราะตอนนี้เธอก็ทุกข์ใจมากพออยู่แล้ว ซึ่งหลายคนได้มีการอ่าน Facebook ของเธออ่านก็พากันเข้ามาให้กำลังใจเธอรวมถึงประชาสัมพันธ์ถึงคนที่เคยกินเบเกอรี่ร้านของเธอว่าให้มีการเฝ้าระวังและกักตัวเองโดยด่วนเพื่อป้องกันการแพร่เชื้อออกไปให้กับบุคคลอื่น

     ในสถานการณ์อย่างนี้การโทษการไม่เป็นสิ่งที่ดีนักเพราะหากใครรู้ว่าตนเองติดเชื้อคงไม่นำไปแพร่ให้กับคนอื่นแน่นอนดังนั้น การให้กำลังใจกันเป็นสิ่งที่ดีที่สุดและควรมีการกักตัวเองเอาไว้อยู่แต่ในบ้านหากไม่มีความจำเป็นต้องออกนอกบ้านรวมถึงการเว้นระยะห่างระหว่างกันหากจะต้องมีการติดต่อสื่อสารกันซึ่งตอนนี้หลายฝ่ายก็มีการรณรงค์และพยายามอย่างเต็มที่ที่จะมีการสกัดกั้นการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19

พร้อมถึงหาแนวทางป้องกันและหาตัวยาที่จะสามารถทำลายไวรัสชนิดนี้ได้แต่ตอนนี้ทุกฝ่ายจะต้องร่วมมือกันเพื่อให้ผ่านพ้นวิกฤตนี้ไปได้และสิ่งสำคัญที่สุดคือหากรู้ว่าตนเองติดเชื้อไวรัสโควิด-19ไม่ควรปิดบังเอาไว้ควรจะมีการประชาสัมพันธ์บอกให้คนอื่นได้ทราบเพื่อที่คนที่เคยใกล้ชิดและสัมผัสเราจะได้มีการเฝ้าระวังตนเองและไปทำการตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19ต่อไป

Posted by adminone in ข่าวสังคม
ถูกผู้จัดการร้าน สมัครงาน part time โพสต์ด่าเพราะขอเงินเดือนสูงไปให้ไม่ไหว

ถูกผู้จัดการร้าน สมัครงาน part time โพสต์ด่าเพราะขอเงินเดือนสูงไปให้ไม่ไหว

นักเรียนระดับชั้นมหาลัยไม่มีตังค์จนต้องไป สมัครงาน part time แต่ถูกผู้จัดการร้านโพสต์ด่าเพราะขอเงินเดือนสูงไปให้ไม่ไหว

กำลังเป็นข่าวโด่งดังเรื่องเกี่ยวกับนักเรียนมหาลัยไม่มีตังค์จนต้องมาสมัครงาน part time ที่ร้านอาหารที่อยู่ในห้างแห่งนึงซึ่งหลังจากที่กรอกใบสมัครเธอก็ถูกเจ้าของร้านปฏิเสธนอกจากที่ถูกเจ้าของร้านปฏิเสธเธอแล้วเจ้าของร้านออกมาโพสต์เรื่องราวและด่าเธอซึ่งเธอดีกับฉันนักข่าวว่าเธอไม่ได้ต้องการจะปฏิเสธเด็กสาวคนนั้นจริงๆเธอก็สงสารที่เธอไล่ไปนั้นก็เพราะว่าสาวคนนั้นขอค่าจ้างที่แพงมากเกินไปไม่สามารถที่จะจ่ายไหวแต่ถ้านักเรียนคนนั้นก็บอกว่าทางเจ้าของร้านให้เพื่อนของทางเจ้าของร้านช่วยวิพากษ์วิจารณ์และด่าเด็กคนนั้นซึ่งเธอบอกว่าเธอไม่ได้ตั้งใจจะว่าเด็กสาวคนนั้น

สนุกสนานแต่ยังมีคนคนหนึ่งมาเห็นข้อความที่เธอได้โพสต์และคนคนนั้นก็ได้เอาข้อความที่เธอโพสต์ไปแชร์ต่อทำให้ทุกคนในโลกโซเชียลได้เห็นเรื่องราวที่ทางเจ้าของร้านอาหารโพสต์ไปและต่อว่าเจ้าของร้านอาหารซึ่งร้านอาหารของเธอนั้นเปิดเป็นร้านขายสเต็กซึ่งคือร้านสเต็กซานตาเฟ่

ซึ่งเป็นร้านที่ดังมากเกี่ยวกับสเต็กเพราะสเต็กที่ร้านนี้มีเนื้อที่นุ่มเครื่องเคียงก็อร่อยทุกอย่างให้เป็นร้านที่ดังมากมีเด็กสาวคนหนึ่งได้มาขอสมัครทำงานพาร์ทไทม์ที่ร้านนี้ซึ่งเด็กสาวคนนั้นได้ขอให้ผู้หญิงคนนั้นจ่ายเงินเดือนให้เธอเดือนละ 15,000 บาททำให้ทางเจ้าของร้านถึงถึงกับช็อคกับราคาที่เด็กคนนั้นต้องการซึ่งในป้ายประกาศสมัครเน็ตพาร์ทไทม์เขียนไว้แล้วว่าชั่วโมงละ 44 บาทเท่านั้นซึ่งเด็กคนนั้นต้องการจะทำงาน 8 ชั่วโมงแต่ถ้าเอามาคำนวณยังไง 8 ชั่วโมงก็ไม่ถึง 15,000 บาทแน่นอนดังนั้นทางเจ้าของร้านจึงได้ทำการปฏิเสธเด็กคนนั้นไปในข้อความที่โพสต์ยังไม่มีเขียนผิดว่า

ถ้าหากว่าเธอเห็นตอนที่เด็กนักเรียนคนนั้นกำลังเขียนว่าต้องการเงินค่าจ้างเท่าไหร่เธอก็อยากที่จะฉีกเอกสารกรอกใบสมัครที่เด็กคนนั้นเขียนต่อหน้าต่อตาของเด็กสาวคนนั้นเลยและได้มีคนเกือบทั้งประเทศออกมาต่อว่าเธอโดยส่วนใหญ่จะตอบว่าว่าข้อมูลที่เด็กสาวคนนั้นกรอกข้อมูลใส่ลงไปนั้นเป็นข้อมูลส่วนตัวเกี่ยวกับเด็กคนนั้น

ซึ่งไม่ควรจะโพสต์รูปเอกสารที่เด็กคนนั้นกรอกข้อมูลไว้เพราะนั่นก็เท่ากับว่าได้ทำการเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวของเด็กคนนั้น หลังจากที่เรื่องนี้ถึงหูของผู้บริหารหรือเจ้าของร้านของสเต็กซานตาเฟ่แล้วนั้นผู้จัดการร้านที่โพสต์ด่าเด็กคนนั้นก็ถูกไล่ออกเรียบร้อยซึ่งต้องขอบอกไว้ก่อนเลยว่าการที่เอาข้อมูลของคนอื่นออกมาเผยแพร่ให้คนในโลกโซเชียลรู้นั้นไม่ถูกต้องถ้าเธอไม่ต้องการที่จะรับเด็กสาวคนนั้นทำงานเธอก็เพียงแค่ปฏิเสธไม่เห็นต้องออกมาโพสต์ด่าเธออย่างนี้เลย

 

ขอบคุณ  คาสิโนออนไลน์ได้เงินจริงฝากขั้นต่ำ 100  ที่ให้การสนับสนุน

Posted by adminone in ข่าวสังคม
ผัวฆ่าเมียตาย แล้วจัดฉากว่าเมียลื่นล้มจนเสียชีวิต

ผัวฆ่าเมียตาย แล้วจัดฉากว่าเมียลื่นล้มจนเสียชีวิต

    เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งความว่ามีคนเสียชีวิตที่บ้านพัก ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนี้เกิดขึ้นที่จังหวัดนครนายก โดยผู้ตายอายุ 69 ปี ชื่อว่าคุณ เสาวนีย์  เมื่อเจ้าหน้าที่ไปพบศพ พบว่าเธอเสียชีวิตใกล้กับตู้เสื้อผ้า ตอนที่ตำรวจเดินทางไปถึงพบลูกสาวของนาง เสาวนีย์กำลังนั่งกอดศพแม่ร้องไห้อยู่ พร้อมกับให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ที่แม่ของเธอต้องตายเป็นเพราะสามีใหม่ของแม่ที่ชื่อว่า นาย สันต์ เป็นคนต่างด้าว สืบสันนิษฐานแล้วเป็นคดี ผัวฆ่าเมียตาย

ตอนที่เกิดเหตุ ลูกสาวไม่อยู่บ้านเพราะต้องออกไปทำงานนอกบ้านผู้เสียชีวิตอยู่กับสามีใหม่โดยเธอเล่าว่าในตอนเย็นเธอเดินทางกลับมาถึงบ้านพบว่าแม่นอนอยู่เมื่อสอบถามนายสันต์ ว่าแม่เป็นอะไร นายสันต์ ก็ไม่บอกแค่บอกว่าให้ไปดูเอง

และเมื่อเธอเดินไปตรงที่แน่นอนก็พบว่าแม่มีเลือดไหลออกมาเมื่อจับตัวแม่ก็เพราะว่าตัวแม่แข็งแล้ว พอนายสันต์เห็นอย่างนั้นก็รีบวิ่งหนีออกจากบ้านไปทันที เธอจึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบศพ พบว่ามีร่องรอยการถูกทำร้าย ทั้งที่คอ ที่ไหล่ และที่หัว ซึ่งลูกสาวผุ้ตายได้ให้การว่า แม่ของตนเองและนายสันต์  อยู่กินด้วยกันมานานเป็น 10 ปีแล้วซึ่งตัวในส่วนนั้นเป็นชายต่างด้าวตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกันหากนายสันต์ กินเหล้าแล้วเมาก็จะมีเรื่องทะเลาะตบตีกับแม่ของเธออยู่เป็นประจำ เรื่องลูกสาวได้เล่าสภาพศพของแม่ให้ฟังว่าเมื่อกลับมาถึงก็เห็นแม่นอนอยู่บนที่นอนโดยที่ใบหน้ายังมีการทาแป้งไว้เต็มใบหน้าแต่บริเวณตามร่างกายมีร่องรอยเขียวช้ำเหมือนถูกทำร้าย

ซึ่งในขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังติดตามตัวคนร้ายแต่ยังไม่สามารถจับกุมได้เมื่อเดินทางไปที่บ้านเดิมของคนร้ายพบว่ามีแค่มอเตอร์ไซค์จอดอยู่แต่ไม่เจอตัว ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้มีการตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุแล้วมีการคาดการณ์เอาไว้ว่าน่าจะมีปัญหาทะเลาะกันอยู่ที่ตรงประตูหน้าบ้านและคนร้ายเอาขวดตีหัวผู้เสียชีวิตหลังจากนั้นก็พยายามรัดคอพร้อมลากร่างมาแถวตรงตู้เสื้อผ้าและมีการเช็ดเลือดทำลายหลักฐานเพราะมีร่องรอยของการเช็ดเลือดออก ซึ่งบริเวณลำคอมีร่องรอยการถูกรัดคอและผู้ตายเสียชีวิตจากการขาดอากาศหายใจ

ดังนั้นจึงสันนิษฐานว่าคนร้ายน่าจะมีการนำผ้ามารัดที่คอของผู้เสียชีวิตแล้วมีการอำพรางศพในลักษณะเหมือนกับว่าผู้เสียชีวิตลื่นหกล้มตายที่หน้าประตูห้องน้ำข้างๆกับตู้เสื้อผ้าซึ่งทำเหมือนกับลักษณะว่าผู้ตายอาจจะพึ่งอาบน้ำเสร็จเพราะมีการปรับแรงให้แล้วเกิดหกล้มแถวๆตรงตู้เสื้อผ้าตรงหน้าห้องน้ำเพื่อเป็นการอำพรางศพ 

 

Posted by adminone in ข่าวสังคม
ขลุ่ยกับงูเห่า สุดยอดการโชว์สัตว์ของโลก

ขลุ่ยกับงูเห่า สุดยอดการโชว์สัตว์ของโลก

สุดยอดการโชว์สัตว์ของโลกใบนี้อีกอย่าง การแสดงโชว์ ขลุ่ยกับงูเห่า ซึ่งงูเห่าจะขยับตัวและทำอะไรตามความสัมพันธ์กับเสียงขลุ่ย ถือเป็นศาสตร์การควบคุมสัตว์ที่ยากจะเรียนแบบจริงๆ แล้วมันก็มีมาอย่างยาวนานในประเทศอินเดีย อาจจะนานมากๆจนแถบจะไม่รู้ที่มาที่ไปเลยก็ได้นะ เรียกได้ว่าเป็นตำนานเลยทีเดียว แล้วเจ้างูนั้นทำไมมันถึงเชื่อฟังเสียงขลุ่ยได้ล่ะ

โดยที่คำว่างู ทุกคนจะรู้สึกได้ว่ามันไม่น่าจะเป็นสัตว์ที่ถูกฝึกให้จนเชื่องได้เลย แล้วก็ดูน่าอันตรายแบบสุดๆ ยิ่งไปกว่านั้น การแสดงโชว์ขลุ่ยและงูนี้ มักจะต้องเป็นงูมีพิษเท่านั้นอีกด้วย เพราะว่านั้นคือเสนห์ของการโขว์ประเภทนี้ยังไงล่ะ เป็นการเล่นกับอันตราย และทำให้คนดูเชื่อว่าผู้เป่าขลุ่ยนั้นเป็นผู้วิเศษก็ว่าได้ แต่กระนั้นแล้ว การเป่าขลุ่ยก็ไม่ได้เป็นการลดอันตรายจากงูพิษเหล่านี้ไปมากนักหรอกนะ และยิ่งกับคนดูที่ดูอยู่รอบๆก็คงจะต้องเข้าใจด้วยว่าขลุ่ยไม่ได้ทำให้งูพิษไม่ทำร้ายตัวเองด้วย มันมีความลับดำมืดอยู่

งูเป็นสัตว์ที่ต้องออกล่าเหยื่อ การที่งูจะถูกนำมาแสดงได้แสดงว่าต้องได้รับอาหารจนอิ่มแล้ว แล้วก็ต้องฝึกให้มันอยู่กับคนเยอะๆ จนตัวมันเองไม่คิดว่าคนที่อยู่รอบๆนั้นเป็นพิษเป็นภัยได้ นี่คือการฝึกที่เราพอนึกออก แต่ก็จะบอกว่าการฝึกนี้ ถ้างูมีความผิดปกติทางอารมย์เพียงแค่นิดเดียว มันก็สามารถฉกคนดูหรือคนเป่าขลุ่ยเองและโดนพิษจนถึงแก่ชีวิตได้เช่นกัน

ดังนั้นแล้ว งูพิษพวกนี้จะโดนกระทำอย่างที่น่าอนาถใจที่สุดคือ การถอนเขี้ยวพิษและรีดเอาพิษออกทั้งหมด เพื่อไม่ให้มันฉกคนอื่นและถึงตายด้วยพิษได้ โดยเฉพาะการฝึกฝนกับงูนั้น แรกก็ต้องมีบ้างแหละที่งูจะไม่เชื่อฟังแล้วก็ฉกคนฝึกบ้าง เป็นเรื่องธรรมดา งูมันคงไม่เป็นสัตว์ที่ฝึกง่ายตั้งแต่แรกหรอกมั้ง ทีนี้พอมีการถอนเขี้ยงพิษออก นั้นแหละคือประเด็นสำคัญที่ทำให้มันมีโอกาสติดเชื้อจากแผลจนได้ตายได้ แล้วมันก็เป็นการผิดธรรมชาติของงูพิษที่ไม่เหลือพิษแล้วอีกด้วย งูฝีกโชว์พวกนี้จะมีอายุที่ไม่ยืนยาวนัก บางตัวออกแสดงได้ไม่กี่ครั้งก็ต้องตายไปเพราะติดเชื้อนั้นเอง

ถึงผมจะไม่เคยดูโชวงูพิษนี้ แต่ก็พอจินตนาการได้ว่ามันคงตื่นเต้นดีที่มีงูพิษที่น่ากลัวอยู่ข้างหน้าเรา แต่พอนึกถึงว่ามันไม่มีพิษแล้ว มันก็รู้สึกถึงความอนาถใจและไม่น่าชมขึ้นมาเลยล่ะ

 

Posted by adminone in ข่าวสังคม