เคล็ดลับการออมเงินให้ได้เยอะที่สุดภายใน 1 ปี มีวิธีอะไรบ้าง

เคล็ดลับการออมเงิน  การออมเงินมีหลายวิธีและเคล็ดลับที่สามารถช่วยให้คุณสามารถออมเงินได้มากขึ้นภายใน 1ปีได้ ดังนี้

1.กำหนดเป้าหมายการออมเงิน: กำหนดเป้าหมายที่บอกว่าคุณต้องการออมเงินเท่าไรภายใน 1 ปี โดยให้มีเป้าหมายที่สามารถวัดได้ เช่น “ต้องการออมเงิน 50,000 บาท” หรือ “ต้องการออมเงิน 10% ของรายได้ทุกเดือน”

2.ทำงบประมาณ: ทราบรายรับและรายจ่ายของคุณ จะช่วยให้คุณเห็นภาพรวมของภาวะการเงินของคุณและวางแผนการออมเงินได้ง่ายขึ้น

3.ตั้งเป้าหมายในการลดหนี้: หากคุณมีหนี้ พยายามลดหนี้ให้มากที่สุด น้อยลงก็ได้ เพราะการลดหนี้จะช่วยประหยัดเงินดอกเบี้ยที่ต้องจ่าย

4.สร้างฝึกการบันทึกรายรับ-รายจ่าย: การบันทึกรายรับและรายจ่ายทุกวันหรือทุกสัปดาห์จะช่วยให้คุณเห็นภาพรวมของการใช้เงินและวางแผนการออมได้ง่ายขึ้น

5.ออมเงินที่ได้เสมอ: พยายามออมเงินทุกครั้งที่ได้รับรายได้ เช่น ออมเงินตามเปอร์เซ็นต์ที่กำหนดไว้, ออมเงินที่เหลือจากการใช้เงินหลังจากจ่ายค่าใช้จ่ายทุกอย่าง

6.ลดรายจ่ายที่ไม่จำเป็น: ทำการตรวจสอบรายจ่ายและพยายามลดรายจ่ายที่ไม่จำเป็น เช่น การกินอาหารนอกบ้าน, การซื้อของหรูหรา

7.ใช้เงินออมให้ได้กำไร: หากมีเงินออมส่วนหนึ่ง ลองลงทุนให้ได้กำไร เช่น การลงทุนในกองทุนรวมหรือการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์

8.ควบคุมการใช้บัตรเครดิต: พยายามลดการใช้บัตรเครดิตหรือใช้เป็นบัตรเดบิตแทน เพื่อลดความหนี้สะสม

9.เพิ่มรายได้: พยายามหาทางเพิ่มรายได้เพื่อเสริมทางการออม เช่น การทำงานพิเศษ, การทำธุรกิจขนาดเล็ก

10.สร้างฝึกการออมเงิน: หากมีผู้เพิ่มเติม (เพื่อน, ครอบครัว) ที่มีเป้าหมายในการออมเงินเช่นกัน คุณสามารถสร้างฝึกออมเงินเพื่อร่วมกันกำลังใจและความรับผิดชอบในการออมเงิน

การปฏิบัติตามเคล็ดลับเหล่านี้อาจช่วยให้คุณสามารถออมเงินได้มากขึ้นภายใน 1 ปี เป็นต้นไป

 ภายใน 1 ปีเราควรมีเงินออมให้ได้มากที่สุดเท่าไหร่ จากเงินเดือน 30,000 บาท การกำหนดจำนวนเงินที่  สล็อต ufabet เว็บตรง   ควรออมภายใน 1 ปีนั้นขึ้นอยู่กับสถานการณ์และเป้าหมายของแต่ละบุคคล แต่มีกฎบางประการที่สามารถใช้เป็นแนวทางได้

1.กฎ 50-30-20: กฎนี้แนะนำให้ใช้รายได้ดังนี้

  • 50% สำหรับค่าใช้จ่ายทั่วไป (ค่าเช่า, ค่าน้ำ, ค่าไฟ, อาหาร, การเดินทาง, เป็นต้น)
  • 30% สำหรับค่าใช้จ่ายส่วนตัว (การซื้อของ, การเล่นสันทนาการ, การท่องเที่ยว, เป็นต้น)
  • 20% สำหรับการออม

2.การออม 10-20%: หากมีเป้าหมายที่ต้องการออมมากขึ้น คุณสามารถกำหนดสัดส่วนการออมที่มากขึ้นได้ เช่น 10-20% ของรายได้

3.การออมตามเปอร์เซ็นต์ของรายได้: การออมได้มากขึ้นเมื่อเรามีรายได้มากขึ้น

หากมีเป้าหมายที่อยากให้มีเงินออมมากขึ้นใน 1 ปี คุณสามารถกำหนดเปอร์เซ็นต์การออมที่สูงขึ้น เช่น 30% หรือ 40%  การกำหนดเป้าหมายนี้เป็นเพียงแนวทางเท่านั้น ควรให้ความสำคัญกับสถานการณ์การเงินส่วนตัวของคุณ และปรับเป้าหมายตามความเหมาะสมในสถานการณ์ที่คุณอยู่