เดือน: ตุลาคม 2020

โครงการลดการใช้ถุง

 

โครงการลดการใช้ถุง ทำมารยาทที่แสนดีของนางแบบโผล่ ถกเสื้อ- เหยียบเคาน์เตอร์เซเว่น 

              มีคลิปนางแบบสาวแนวเซ็กซี่  เรวดี ย้อมสี หรือที่รู้จักกันในชื่อ มีนา เป็นคลิปที่มีนาใส่กางเกงยีนขาสั้นเสื้อยืดสีขาวเข้าไปซื้อของในร้านเซเว่น แต่มีการแสดงกิริยามารยาทที่ไม่ค่อยน่าดูด้วยการเอาเท้าที่ใส่รองเท้าส้นสูงหนึ่งข้างเยียบขึ้นมาบนเคาน์เตอร์ของเซเว่น พร้อมกันโพสต์ท่าถ่ายรูปและเวลาที่ซื้อของในร้านเซเว่นเสร็จแล้วก็ถกเสื้อของตัวเองที่ใส่อยู่ขึ้นมาใส่ของที่ซื้อ ทำให้มองเห็นผิวหนังหน้าท้องอย่างชัดเจน

ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่สมควรทำและเมื่อคลิปดังกล่าวได้มีการเผยแพร่ออกมาก็มีการแชร์กันอย่างกว้างขวางเพราะเป็นการแสดงกิริยามารยาทที่ไม่เหมาะสมในที่สาธารณะ จนตอนนี้เป็นข่าวดังมีสื่อโทรทัศน์ไปขอสัมภาษณ์นางแบบมีนา ซึ่งเธอก็ออกมายอมรับว่าสิ่งที่เธอทำนั้นเป็นการไม่สมควรและเป็นสิ่งที่ไร้มารยาทจริงๆ และเธอไม่ได้โกรธที่สังคมออกมาต่อว่าเธอ เธอยอมรับว่าวันนั้นที่ทำลงไปเกิดมาจากความคึกคะนองเพราะเธอเมา และปกติเธอเป็นนางแบบถ่ายแบบแนวเซ็กซี่อยู่แล้ว จึงคิดว่าเป็นการถ่ายแบบสนุกๆ

โดยเธอบอกว่าพนักงานที่ร้านเซเว่นไม่ได้อนุญาตให้เธอทำ แต่เธอทำเอง ดังนั้นจึงอยากจะฝากไปถึงทุกคนรวมถึงเจ้าของร้านเซเว่นว่าอย่าตำหนิพนักงานเลย เพราะเขาไม่รู้เรื่องด้วย ตนเองผิดคนเดียว และตอนนี้นางแบบมีนาได้กล่าวว่า ตนไม่ได้ไปที่ร้านเซเว่นดังกล่าวตั้งแต่เกิดเรื่องมีข่าวดังขึ้น เพราะรู้สึกอายพนักงานของร้าน

          ฟังคำสัมภาษณ์จากปากของนางแบบสาว มีนาแล้ว ว่าสามารถยกโทษให้กับการกระทำของเธอได้เพราะเธอก็ออกมายอมรับตรงๆว่าทำเพราะอะไร เพราะว่าเธอเมา คำตอบของเธอคือการยอมรับความจริง นั่นคือสิ่งที่ถูกต้องแล้วดีกว่าโกหกสร้างเรื่องเป็นแบบอื่นและเชื่อว่าการที่คลิปของเธอเป็นข่าวในครั้งนี้จะทำให้เธอรู้จักการวางตัวในที่สาธารณะได้ดีขึ้นกว่าเดิม 

       เชื่อว่าหลายคนที่ได้อ่านคำสัมภาษณ์ของเธอคงจะหยุดต่อว่าเธอกันและสามารถให้อภัยกับสิ่งที่เธอได้ และเราก็หวังกันไว้ว่าพนักงานร้านเซเว่นที่ทำงานในวันนั้นคงไม่โดนเจ้าของร้านต่อว่าหรือว่าหักเงินเดือน เพราะการที่ลูกค้าทำอะไรในร้านพนักงานส่วนใหญ่ก็จะรู้สึกเกรงใจ จะไม่กล้าต่อว่า เพราะไม่อยากมีเรื่อง

เพราะโดยส่วนใหญ่แล้วหากพนักงานมีเรื่องกับลูกค้า พนักงานมักจะเป็นฝ่ายผิดเสมอดังนั้นทุกคนต้องเอาตัวรอดของตนเองไว้ก่อน ซึ่งครั้งนี้นางแบบสาวเองก็ออกมาบอกแล้วว่าพนักงานไม่ได้อนุญาตเพียงแต่เธอขอที่จะทำ พนักงานจึงไม่กล้าห้ามเธออีก

 

ได้รับการสนับสนุนโดย    ีดฟิำะ

Posted by adminone in ข่าวทั่วไป
วัยรุ่นฮิตกิน โรตีสด ไม่ต้องทอด

วัยรุ่นฮิตกิน โรตีสด ไม่ต้องทอด

                 วัยรุ่นฮิตกิน โรตีสด ไม่ต้องทอด กำลังเป็นเรื่องที่ฮิตทำตามกันมาก จากกรณีที่มีแอพพลิเคชั่นที่ชื่อว่าซันดัง มีการสาธิตการกินโรตีสดราดนมแล้วกินเลย ซึ่งตอนนี้กำลังกลายเป็นกระแสที่ใครๆเห็นต่างก็ทำตาม โดยมีแม่ค้าคนหนึ่งเล่าให้นักข่าวฟังว่าช่วงหลังๆมานี้มีกลุ่มคนวัยรุ่นหลายคน มาขอซื้อโรตีแบบสดๆที่กำลังปั้นเพื่อเอาไว้ถอดให้กับลูกค้า แต่กลุ่มวัยรุ่นเหล่านี้บอกไม่ให้ถอดแต่ให้ราดนมสดเลย

เมื่อบอกว่าไปว่ายังกินไม่ได้เพราะแป้งยังดิบกินไปจะปวดท้อง เด็กๆก็ไม่สนใจต่างการต้องการกินโรตีดิบกับนมเพราะต้องการเลียนแบบในที่เห็นในคลิป ซึ่งเมื่อข่าวนี้เผยแพร่ออกไป หน่วยงานหลายฝ่ายได้พากันออกมาเตือนกลุ่มวัยรุ่นเหล่านี้ว่าการกระทำดังกล่าวเป็นอันตราย เพราะแป้งโรตียังไม่สุก ยังไม่ผ่านความร้อนใด

จะทำให้กระเพาะต้องทำงานหนักเพราะย่อยยาก  อาจจะปวดท้องและเป็นโรคท้องอืดได้ง่าย ที่สำคัญนอกจากปัญหาท้องอืดท้องเฟ้อแล้ว เรื่องของความสะอาดก็มีผลด้วยเช่นกัน เพราะอาจจะมีพวกเชื้อโรค เชื้อแบคทีเรียปนเปื้อนอยู่ในอาหาร เพราะอาหารยังไม่ได้ผ่านความร้อน เมื่อเรากินเข้าไปอาจทำให้ท้องเสีย ต้องเข้าไปนอนในโรงพยาบาลเพราะอาหารเป็นพิษได้อีก

โดยทั้งแพทย์ นักวิชาการและผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพต่างก็พากันออกมาเตือนวัยรุ่นไม่ให้หลงไปตามกระแส พร้อมถึงฝากแจ้งไปยังแม่ค้าพ่อค้าที่ขายโรตีด้วยว่าไม่ควรจะขายโรตีดิบให้กับเด็กวัยรุ่นที่มาซื้อ และให้ผู้ปกครองเฝ้าระวังคอยเตือนและให้ความรู้กับเด็กๆในปกครองของตนเองให้ทราบถึงภัยร้ายที่จะมาหากมีการกินโรตีดิบกับนมเพราะยังไม่ได้ผ่านการฆ่าเชื้อใดๆ

             สังคมวัยรุ่น เป็นวัยที่อยากรู้อยากลองไปเสียทุกอย่าง ทั้งที่ไม่รู้ว่าอะไรดีหรือไม่ดี เมื่อทำไปแล้วเกิดโทษหรือมีประโยชน์กับตนเองมากน้อยแค่ไหน ส่วนใหญ่เป็นพฤติกรรมการลอกเลียนแบบ และการท้าทายกัน เพราะกลุ่มวัยรุ่นเหล่านี้ส่วนใหญ่ก็มีการศึกษากันแล้ว จึงคิดว่าพวกเขาน่าจะรู้เกี่ยวกับโทษที่จะได้รับหากเขากินของดิบเข้าไป แต่เพราะมีการท้าทายกันเกิดขึ้น

จึงมักจะมีการทำเพื่อไม่ให้ถูกเพื่อนล้อ หากจะควบคุมอาจจะต้องเริ่มที่ครอบครัวควรให้คำชี้แนะกับบุตรหลานของตัวเองว่าไม่ควรทำตามหรือเลียนแบบพฤติกรรมไหนที่เราเห็นว่าไม่ดี หรือหากไม่มั่นใจว่าดีหรือไม่ดีให้มาสอบถามผู้ปกครองก่อนและไม่ควรปล่อยให้เด็กเล่นโซเชียวมากเกินไป เพราพฤติกรรมการเลียนส่วนใหญ่นำมาจากสื่อทางโซเชียวแทบทั้งสิ้นดังนั้นหากปล่อยให้เด็กเล่นโซเชียวเราควรหาเวลานั่งใกล้และคอยให้คำแนะนำว่าสิ่งไหนทำตามได้หรือสิ่งไหนที่ทำตามไม่ได้จะได้ไม่เกิดอันตรายกับเด็ก

 

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย  ufabet auto

 

Posted by adminone in ข่าวทั่วไป
ไฟป่า เกิดจากอะไร

ไฟป่า เกิดจากอะไร

เมื่อไม่มีวันมานี้หลายคนคงจะได้ทราบข่าวกันแล้ว เรื่องการเกิด ไฟป่า ในประเทศออสเตรเลีย สถานการณ์ไฟป่าครั้งนี้รุนแรงเป็นอย่างมาก ยากเกินกว่าจะควบคุมได้ นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย สกอตต์ มอร์ริสัน ได้ออกมาประกาศโดยระดมทหารถึง 3,000 นาย เข้าไปให้การช่วยในการควบคุมไฟและอพยพประชาชนออกมาจากหลายพื้นที่ ไฟป่านั้นเกิดขึ้นได้จากหลากหลายสาเหตุ

ทั้งเกิดจากการที่มนุษย์เป็นคนทำ และ เกิดจากธรรมชาติทำตัวเอง บทความนี้จะขอนำเสนอสาเหตุการเกิดไฟป่าที่เกิดขึ้นจากหลายปัจจัย ดังนี้

1.ไฟป่าที่ธรรมชาติสร้าง ไฟป่าที่เกิดขึ้นโดยธรรมชาติเป็นผู้สร้างขึ้นนั้นมีสาเหตุหลายอย่างเช่น ฟ้าผ่า ภูเขาไฟระเบิด แสงแดดกระทบกับผลึกหิน กิ่งไม้เสียดสัน การลุกไหม้ตัวเองของสิ่งมีชีวิต ฯลฯ แต่สาเหตุหลักของการเกิดไฟป่าทางธรรมชาติคือ ฟ้าผ่า และ กิ่งไม้เสียสีกัน อธิบายได้ดังนี้

ฟ้าผ่า ไฟป่าที่เกิดจากสาเหตุนี้จะอยู่ในป่าที่เป็นเขตอบอุ่น อย่างประเทศสหรัฐอเมริกาและประเทศแคนาดา การเกิดจากฟ้าผ่าแบ่งออกเป็น 2 ประเภทคือ ฟ้าผ้าแห้ง เป็นฟ้าผ่าที่เกิดขึ้นในตอนที่ฝนไม่ตก มักจะเกิดขึ้นในช่วงฤดูแล้ง และอีกประเภทคือ ฟ้าผ่าเปียก ที่เกิดขึ้นพร้อมกับการเกิดพายุ ฝนฟ้าคึกคะนอง แต่ฟ้าผ่าประเภทนี้มักจะค่อยก่อให้เกิดการเผาไหม้ หรือหากถ้าเกิดขึ้นจะรุนแรงและลุกลามไปไกล

กิ่งไม้เสียดสี สาเหตุนี้มักจะเกิดขึ้นกับกลุ่มป่าที่ต้นไม่เยอะจนหนาแน่น และเกิดขึ้นกับป่าที่สภาพอากาศที่แห้งจัด อย่างเช่น ป่าไผ่ หรือ ป่าสน เพราะด้วยปริมาณที่มีต้นไม่เยอะจึงทำให้เกิดเบียดเสียดสีกันระหว่างกิ่งไม้ของแต่ละต้นที่อยู่ใกล้กันมาชน จึงสามารถทำให้เกิดไฟป่าได้

2.ไฟป่าที่มนุษย์สร้าง สาเหตุของการเกิดไฟป่าจากมนุษย์นั้นหลายคนคงทราบดีว่ามันขึ้นจากอะไรได้ และทำไปเพื่ออะไร ไม่ว่าจะประเทศไหน มีสภาพอากาศอย่างไร ก็สามารถเกิดไฟป่าจากมนุษย์ได้ทั่วทุกที่ อย่างการเก็บของป่า มนุษย์เราจะเผาเพื่อต้องการพื้นที่การเดินทางได้อย่างสะดวก แม้กระทั่งการเผาไร่ ที่เป็นสาเหตุรอง เนื่องจากชาวนาหลังเกี่ยวจะทำการเผ่าไร่ของตนเอง

จึงต้องคอยดูและเฝ้าตลอด หากขาดการควยคุมจะทำให้ลุกลามได้ และอีกสาเหตุสำคัญนั้นก็คือความประมาทของเรานั้นเอง นั้นอาจจะเกิดจากการต้องไปตั้งแคมป์ในป่าหรือใกล้พื้นที่ป่า มีการก่อกองไฟขึ้นแล้วลืมดับ รวมไปถึงการสูบบุหรี่ในบริเวณพื้นที่ป่าเช่นเดียวกัน การล่าสัตว์ก็เป็นอีกสาเหตุที่ทำให้เกิดไฟไหม้ป่า เพราะการจุดไฟเผาป่าจะเป็นการต้อนสัตว์ให้จนมุม เพื่อทำการไล่ล่าได้อย่างง่ายขึ้น

จากเหตุการณ์การเกิดไฟป่าที่เกิดขึ้นในออสเตรเลียนั้นเริ่มมาตั้งแต่เดือนกันยายนของปี2562แล้ว และรุนแรงมาอย่างต่อเนื่องในปัจจุบัน สาเหตุของการเกิดไฟป่าครั้งนี้ของออสเตรเลียนั้นเกิดมาจากที่สภาพอากาศร้อนจัดทั่วประเทศ และภัยแรงที่รุนแรงเป็นประวัติการณ์ จากเหตุการณ์นี้ทำให้มีเสียชีวิตมากกว่า 20 คน และสัตว์ที่ตายมากถึง 480 ล้านตัว

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ออสเตรเลียเผชิญกับปัญหานี้ เพราะเมื่อปี2009นั้นก็เคยเกิดเหตุการณ์ไฟป่าขึ้นเช่นกัน มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 150 คน ครั้งนั้นนับเป็นครั้งที่เลวร้ายที่สุดเลยก็ว่าได้ ขอให้ทุกคนส่งกำลังใจไปให้ชาวออสเตรเลียกันด้วยนะคะ ไฟป่าของออสเตรเลียเป็นผืนป่าธรรมชาติ จึงไม่มีเหตุเหมือนในประเทศไทยที่มี ข่าวบุกรุกพื้นที่ป่าสงวน โดย ส.ส.คนดัง

 

 

ขอขอบคุณ  www.ufabet.com ลิ้งเข้าเว็บไซต์คะ  ที่ให้การสนับสนุน

Posted by adminone in สังคมทั่วไป
แม่ค้าขายกุ้งในตลาดที่อู่ฮั่น ส่อเป็น ผู้ป่วยโควิด 19 รายแรก

แม่ค้าขายกุ้งในตลาดที่อู่ฮั่น ส่อเป็น ผู้ป่วยโควิด 19 รายแรก

จีนคาดการณ์แม่ค้าขายกุ้งที่ตลาดอู่ฮั่น อาจจะเป็น ผู้ป่วยโควิด 19 รายแรก

    มีการติดตามหาตัวผู้ป่วยที่ติดเชื้อไวรัส โควิด -19 มาโดยตลอดว่ารายการเป็นผู้ที่นำเชื้อโรคไวรัสโควิด -19 เข้ามาในประเทศจีนเป็นคนแรกหลังจากนั้นก็มีการแพร่ระบาดให้กับคนอื่นๆจนทำให้ประเทศจีนมีจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสเป็นจำนวนมากรวมถึงยังมีผู้เสียชีวิตมากถึง 3,300 คน  สาเหตุที่ต้องมีการตามหาผู้ที่ติดเชื้อไวรัสคนแรกนั้นเนื่องจากจะได้ทราบถึงสาเหตุของเชื้อโรคว่ามาจากอะไรเพื่อที่จะได้หาทางแก้ไขหรือผลิตยาต้านไวรัสได้ถูกวิธีหลังจากที่มีการหากันมานานก็มีรายงานข่าวเข้ามาว่าจากการใช้ข้อมูลย้อนหลังไปเรื่อยๆของผู้ป่วยที่เริ่มเข้ามาแจ้งเกี่ยวกับเรื่องของการติดเชื้อไวรัสโควิด -19  

มีแม่ค้าหญิงคนหนึ่งซึ่งเธอเป็นแม่ค้าขายกุ้งอยู่ในตลาดของเมืองอู่ฮั่นเธอเป็นคนแรกๆในกลุ่ม 27 คนที่ทางโรงพยาบาลได้มีการตรวจพบว่ามีการติดเชื้อไวรัสโควิด -19  และเมื่อทางการได้มีการย้อนข้อมูลกลับไปเกี่ยวกับอาการของเธอก็พบว่าเริ่มมีอาการไม่สบายมาตั้งแต่ประมาณวันที่ 10 เดือนธันวาคมปีพศ 2563

โดยในครั้งนั้นเธอคิดว่าตนเองไม่สบายธรรมดาเท่านั้นเพราะในช่วงเดือนธันวาคมเป็นช่วงที่มีอากาศหนาวเธอจึงคิดว่าเธออาจจะไม่สบายเพราะอากาศที่หนาวเย็นขึ้นจึงทำได้แค่เพียงไปหาหมอที่คลินิกได้บ้านแล้วหมอก็ให้ยาแก้ไข้หวัดให้เธอมากินแต่หลังจากที่เธอกินแล้วอาการเธอก็ไม่ดีขึ้นดังนั้นต่อมาเธอจึงตัดสินใจไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งแต่เมื่อแจ้งอาการให้กับคุณหมอทราบแล้วคุณหมอก็บอกได้เพียงแค่ว่าเธอป่วยไม่สบายเป็นไข้ธรรมดา

หลังจากนั้นก็ให้ยาเธอมาทานซึ่งเมื่อทานเข้าไปแล้วอาการของเธอก็ไม่ได้ดีขึ้นเธอยังคงมีอาการทรุดหนักกว่าเดิมดังนั้นพอถึงวันที่ 16 เดือนธันวาคมแล้วจึงได้เดินทางไปหาหมอที่โรงพยาบาลที่นับว่าใหญ่ที่สุดของเมืองอู่ฮั่นนั่นคือโรงพยาบาลอู่ฮั่นยูเนี่ยนซื้อที่นั่นคุณหมอได้มีการตรวจอาการเธออย่างละเอียดพร้อมทั้งกับบอกเธอว่าอาการของเธอมีลักษณะใกล้เคียงกับคนอื่นๆ

ที่เคยมาตรวจที่โรงพยาบาลซึ่งทุกคนมาจากตลาดหัวหน่านซึ่งเป็นตลาดเดียวกับที่เธอขายของอยู่  หลังจากนั้นคุณหมอที่ทำการตรวจสอบและรักษาอาการของเธอก็ได้มีการวิเคราะห์ถึงลักษณะของเชื้อโรคที่เกิดขึ้นกับผู้ป่วยที่มารักษากับเขาว่าลักษณะอาการใกล้เคียงกันจึงคิดได้ว่าอาการเหล่านี้น่าจะเป็นการติดเชื้อไวรัส คุณหมอไม่สามารถบอกได้ว่าเป็นเชื้อไวรัสชนิดไหนหลังจากนั้นประมาณวันที่ 31 ธันวาคมแม่ค้ากุ้งคนดังกล่าวจึงถูกคุณหมอที่รักษากักตัวไว้ตรวจหาเชื้อโรคที่โรงพยาบาล  และนับตั้งแต่นั้นมาจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสก็เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ

ซึ่งบุคคลที่ใกล้เคียงกับเธอไม่ว่าจะเป็นลูก  หรือสามี  หรือแม้แต่ร้านของเธอต่างประเทศเชื้อไวรัสโควิด -19 ด้วยกันทุกคนยังไงก็ได้นี่เป็นเพียงแค่ข้อสันนิษฐานเท่านั้นว่าแม่ค้าขายกุ้งคนนี้อาจจะเป็นบุคคลแรกที่เริ่มมีการติดเชื้อไวรัสแต่ก็ยังไม่สามารถยืนยันได้ 100%

นอกจากแม่ค้าขายกุ้งที่น่าจะเป็นต้นเหตุเชื้อแล้วนั้น ในไทยเอง แม่ค้าเบเกอรี่ ก็ป่วยติดเชื้อโควิด -19 ด้วยเช่นกัน

 

ได้รับการสนับสนุนโดย  เซ็กซี่ บาคาร่า ทดลองเล่น

Posted by adminone in ข่าวทั่วไป