ประเทศฮ่องกงเป็นที่รู้จักกันดีของคนทั้งโลกเนื่องจากเป็นเขตเศรษฐกิจที่สำคัญของโลก คุณภาพชีวิตของคนที่นี่นั้นถูกจัดอันดับว่าเป็นเมืองที่มีประชาชนนั้นมีคุณภาพชีวิตที่ดีมากและติดอยู่ในอันดับต้นๆของโลกด้วย ประชากรในประเทศนั้นมีรายได้สูง เป็นเมืองที่ดูมีความเพียบพร้อมทั้งทางด้านการคมนาคม แหล่งช็อปปิ้ง แหล่งท่องเที่ยวที่สวยงาม ใครเล่าจะรู้ว่ามี ด้านมืดประเทศฮ่องกง ที่น่ากลัวแฝงอยู่

ชีวิตและความเป็นอยู่ของผู้ตนมีความหรูหรา ทันสมัย และตึกบ้านเมืองของฮ่องกงนั้นมีความสวยงามและสง่ามากแต่แน่นอนว่าไม่มีประเทศไหนดีไปหมดสะทุกอย่าง ในแต่ละประเทศนั้นก็จะมีด้านมืดเป็นโลกคู่ขนาดที่เกิดมาคู่กันอยู่ด้วยเสมอ

การดำดิ่ง ด้านมืดของประเทศฮ่องกง ที่หลายๆคนอาจจะคิดว่ามันคือสวรรค์ สิ่งที่เป็นด้านมืดของฮ่องกงนั้นคือ ค่าครองชีพที่สูงเป็นอันดับต้นๆของโลก ซึ่งคนฮ่องกงนั้นจะต้องมีรายได้จากการทำงานเฉลี่ยต่อคน ต่อเดือนนั้นประมาณ 8,000-10,000 ดอลล่าร์ฮ่องกงหรือมากกว่านี้ ถึงจะเพียงพอต่อการดำเนินชีวิตแบบไม่อดยากซึ่งเงินที่เป็นรายได้นั้นจะต้องใช้ไปกับค่าอาหาร ค่าที่พัก เสื้อผ้าและสิ่งที่จำเป็นต่างๆด้วย

และค่าอสังหาริมทรัพย์ในฮ่องกงนั้นจะแพงมากกว่าประเทศไทยประมาณสี่เท่าตัวเลยทีเดียว และที่พักอาศัยนั้นส่วนมากจะเป็นห้องเล็กๆหรือคอนโด คนที่อาศัยในฮ่องกงส่วนใหญ่นั้นจะใช้บริการต่างของรัฐที่มีการให้เช่าห้องเช่าในราคาที่ถูกโดยจะอยู่ที่ประมาณ 4,000 ดอลล่าร์ฮ่องกงคิดเป็นเงินไทยประมาณ16,000บาท

และผู้ที่จะมีสิทธิ์ในการใช้บริการห้องเช่ากับรัฐนั้นจะต้องมีการจองล่วงหน้าเป็นระยะเวลาถึง3ปี และมีเงือนไขที่จะสามารถเช่าได้คือเงินเดือนจะต้องไม่เกิน 10,000 ดอลล่าร์ฮ่องกงด้วยจึงจะสามารถใช้สิทธิ์ได้นั่นเอง ถ้าหากผู้เช่าอาศัยมีรายได้ที่มากกว่านั้นก็จะไม่สามารถใช้สิทธิ์นี้ได้หรืออาจจะต้องมีการย้ายออกภายหลังเพื่อให้คนที่มีรายได้น้อยเข้ามาอยู่แทนนั่นเอง และการอาศัยอยู่ในฮ่องกง

ฮ่องกงในที่นี้ไม่ใช่คุกแต่อย่างได้ แต่เป็นห้องที่มีความแคบมากๆที่เปรียบเสทอนกับกงขังมนุษย์นั่นเอง ซึ่งฮ่องกงนั้นจะตั้งอยู่บนดาดฟ้าของตึกบางทึกในฮ่องกง ซึ่งคนที่มีรายได้น้อยมากก็จะอาศัยและใช้ชีวิตอยู่ในนี้นั่นเอง และการอาศัยในสถานที่แห่งนี้นั้นเป็นไปอย่างยากลำบากเพราะตึกบางตึกก็ไม่มีลิฟท์ให้ผู้อยู่อาศัยใช้และขึ้นไปยังดาดฟ้า

ก็ทำให้คนที่อาศัยนั้นต้องใช้บันไดในการขึ้นไปยังที่พักซึ่งมีความสูงมากกว่า 10-20ชั้นเลยทีเดียวและเนื่องจากห้องที่แคบนั้นทำให้ออกซิเจนในห้องมีเพียงน้อยนิดและทำให้คนที่อาศัยอยู่นั้นหายใจอย่างลำบากด้วยแต่ที่อยู่อาศัยแบบนี้นั้นถือว่าเป็นสิ่งผิดกฎหมายอละรัฐบาลฮ่องกงนั้นกำลังกำจัดและปราบปรามอย่างหนักเพื่อให้ที่อยู่อาศัยแบบนี้หายไป

อย่างไรก็ตามถ้าเทียบกับประเทศไทยที่มีทาวน์เฮาส์มีบ้าน ก็กว้างขวางกว่า แต่ในไทยเองก็มี ภัยร้ายบ้านทาวน์เฮาส์ เช่นกัน โดยเป็นโจรที่แฝงตัวมาขโมยเวลาเจ้าของไม่อยู่บ้าน

ได้รับการสนับสนุนโดย  gclub

    หากใครที่อาศัยอยู่บ้านทาวน์เฮาส์ให้ระวังให้ดี เพราะโจรสมัยนี้มีชุกชุมเหตุการณ์ในครั้งนี้เกิดมาจาก โจรมุดฝ้าเข้ามาขโมย โดยมีโจรสาวแสบรายหนึ่งโรยตัวลงมาจากฝ้าเข้าไปลักขโมยของที่บ้านหลังหนึ่ง ซึ้งบ้านหลังดังกล่าวมีน้องคนหนึ่งอยู่อายุ 15 ปี กำลังอยู่บ้านคนเดียว พอโจรเห็นเด็กอายุ 15 ปีก็ทำทีถามหาพี่สาวว่าอยู่บ้านไหม เด็กอายุ 15 ปีก็สงสัยแต่ก็คิดว่าเป็นเพื่อนของพี่ กำลังอยู่ในอาการเผลอโจรสาวก็ใช้มีดแทงเข้าที่คอเด็กอายุ 15 ปี

แล้วปีนขึ้นฝ้าหนีไป เหตุการณ์ครั้งนี้เกิดขึ้นที่ซอยลาดปลาเค้า ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทางนักข่าวได้ลงไปคุยกับน้องวัย 15 ปี ซึ่งน้องบอกกับนักข่าวว่ารู้สึกตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอย่างมาก และเหตุการณ์โจรสาวปีนมาขโมยของภายในบ้านนี้ไม่ใช่เพิ่งเกิดเหตุครั้งแรก ก่อนหน้านี้ประมาณ 3-4 เดือน

ก็เคยเกิดมาแล้วกับบ้านอีกหลังหนึ่งซึ่งทางเจ้าของบ้านได้เล่าเหตุการณ์การให้ฟังว่าวันนั้นที่บ้านไม่มีคนอยู่ กลับมาบ้านแล้วพบว่าทรัพย์สินมีค่าหายเป็น เช่นเงิน และทอง จึงได้ทำการสำรวจรอบรอบบ้านว่าโจรจะเข้าทางไหนได้ ซึ่งก็ไม่พบการงัดแงะ แต่ก็ได้เรียกคนในบ้านมาบอกว่ามีโจรขึ้นบ้านนะ เพราะว่าทองหายหลายเส้น เมื่อเช็คแล้วไม่พบว่ามีรอยงัดแงะ

จึงคิดกันว่าโจรน่าจะเข้ามาทางฝ้าแน่นอน ซึ่งบ้านหลังที่ทองหายนี้มีบ้านอยู่ติดกับบ้านเด็กอายุ 15 ปีคนที่ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งเธอเล่าให้ฟังว่าเธอมั่นใจว่าโจรที่เข้ามาขโมยของบ้านเธอกับสาว 15 ปีน่าจะเป็นคนคนเดียว ซึ่งพบหลักฐานเป็นรอยมือและรอยเท้าอยู่บ้านหลังตู้เสื้อผ้าของเธอ เหตุการณ์ที่เธอและเด็กสาว 15 ปีโดนขโมยขึ้นเกิดเหตุในวันเดียวกัน

จึงมีการคาดการณ์กันว่าจะเกิดขึ้นเวลาใกล้กันซึ่งโจรอาจจะขึ้นบ้านสาว 15 ปีก่อนแต่พอไม่ได้ของจึงมาที่บ้านของเธอเพราะอยู่ใกล้กันนั่นเอง และล่าสุดชาวบ้านในหมู่บ้านทราบแล้วว่าใครเป็นโจรสาวคนดังกล่าวซึ่งก็คือคนในหมู่บ้านนั่นเอง ซึ่งตอนนี้โจรคนดังกล่าวได้หนีออกไปแล้วโดยพาลูกหนีไปด้วย ทิ้งสามีไว้ที่บ้านซึ่งตอนสามีของโจรสาวรู้เรื่องก็ตกใจ

และได้ไปขอโทษบรรดาเพื่อนบ้านที่โดนเมียของตัวเองขโมยของไปและถูกทำร้าย โดยเขายอมรับผิดว่าเขาไม่ได้คุยกับเมียถึงปัญหาการเงินที่เมียอาจจะมีเงินไม่พอใช้จนทำให้เมียมาก่อเหตุดังกล่าวขึ้น 

สนับสนุนเรื่องราวโดย   gclub